ได้สอบถามตามเรื่องไปที่นายจ้างแล้วนายจ้างแจ้งว่า

มาดูข้อกฎหมายฯ ที่เกี่ยวข้องกัน #การเรียกรับประกันในการทำงาน นายจ้างจะเรียกรับหลักประกันการทำงานความเสียหายในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเงิน ทรัพย์สินอื่นหรือการค้ำประกันด้วยบุคคลจากลูกจ้างไม่ได้ เว้นแต่

– ลักษณะหรือสภาพของงานที่ทำนั้นลูกจ้างต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับการเงินหรือทรัพย์สินของนายจ้าง

ให้นายจ้างคืนเงินประกันพร้อมดอกเบี้ยถ้ามีให้แก่ลูกจ้างภายใน ๗ วันนับแต่วันที่นายจ้างเลิกจ้างหรือวันที่ลูกจ้างลาออกหรือวันที่สัญญาประกันสิ้นอายุแล้วแต่กรณี

เนื้อความตามกฎหมายฯ #ไม่ได้ระบุไว้เกี่ยวกับเรื่องของกฎระเบียบข้อบังคับของบริษัทฯ เพราะฉะนั้น #ลูกจ้างจึงยังคงมีสิทธิ์ที่จะเรียกรับเงินประกันคืนจากนายจ้างได้โดยชอบตามที่กฎหมายฯ

#กฎหมายฯ_กำหนดให้นายจ้างต้องคืนเงินประกันพร้อมดอกเบี้ยให้แก่ลูกจ้างภายใน ๗ วันนับจากวันที่พ้นสถานะความเป็นลูกจ้าง

#หากนายจ้างจงใจไม่คืน เมื่อพ้น ๗ วันนับแต่วันที่ถูกกำหนดคืน #นายจ้างต้องเสียดอกเบี้ยให้แก่ลูกจ้างในระยะเวลาที่ผิดนัดจ่ายร้อยละ_๑๕_ต่อปี และนายจ้างจะต้องเสียเงินเพิ่มให้แก่ลูกจ้างร้อยละ ๑๕ ของเงินที่ค้างจ่ายทุกๆระยะเวลา ๗ วัน

แต่ตามข้อเท็จจริงแล้วส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่รัฐ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน #จะออกคำสั่งให้จ่ายเพียงดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ ต่อปี #แต่ไม่ออกคำสั่งให้จ่ายเงินเพิ่มร้อยละ ๑๕ ในทุกระยะเวลา ๗ วัน ด้วยดุลพินิจคิดเอาเองของเจ้าหน้าที่รัฐ #ว่านายจ้างไม่ได้จงใจที่จะไม่จ่าย ทั้งที่จริงๆ แล้วนายจ้างส่วนใหญ่ตั้งใจจงใจที่จะโกง เงินตามจำนวนนี้ของลูกจ้าง